NANJING

ฟู่จึเมี้ยว ศาลเจ้าขงจื้อ
(夫子庙 : fu zi miao)

เปิดทำการ : 7:00-23:00
ที่ตั้ง : ถนนฉินหงหมายเลขหนึ่ง (秦虹路1号)
ประวัติ :
ศาลเจ้าขงจื้อ หรือเรียกว่า “ฟูจึเมี้ยว” เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของหนานจิง เพราะเดิมเคยเป็นพื้นที่ส่วนนี้สำหรับการสอบจองหงวน แต่ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวได้ปรับปรุงเป็นแหล่งชมโบราณสถาน และทัศนียภาพของแม่น้ำฉินหวย รวมทั้งพื้นที่สำหรับจับจ่ายซื้อหาผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมือง มีโบราณสถานหลายแห่งในพื้นที่แห่งนี้ เช่น สนามสอบจองหงวนจำลองในสมัยโบราณ ศาลเจ้าขงจื้อ กำแพงอักษรที่ทอดยาวไปตามลำน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศ
การท่องเที่ยวในพื้นที่ศาลเจ้าขงจื้อนี้ช่วงยามเย็นจะเป็นช่วงที่งดงามที่สุด เนื่องจากมีการเปิดไฟตามลำน้ำทั้งสองฝั่ง พร้อมกับมีเรือนำเที่ยวล่องชมทัศนียภาพริมน้ำยามเย็น บริเวณโดยรอบของศาลเจ้าขงจื้อแห่งนี้ยังเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองขอหงนานจิงที่ขึ้นชื่อ และมีราคาถูก เช่น ผ้าไหมหนานจิง ตราประทับแบบจีนโบราณ ไม้แกะสลัก เป็นต้น

คฤหาสน์จันหยวน
(瞻园：zhan yuan)

เปิดทำการ : 8:00 – 23:00
ที่ตั้ง : ถนนจันหยวนหมายเลข 208 (瞻园路208号)
ประวัติ :
คฤหาสน์จันหยวน เป็นโบราณสถานที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของหนานจิง มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 600ปี ชื่อของคฤหาสน์แห่งนี้ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระจักรพรรดิ์เฉียงหลง โดยทรงนำมาจากบทกวีที่ว่า “瞻望玉堂，如在天上” แปลว่า “พิศซึ่งเรือนหยกแก้ว งามหนึ่งแล้วแดนสรวงไซร้”
ความสำคัญของคฤหาสน์แห่งนี้คือเป็นสวนและหมู่อาคารแต่ครั้งราชวงศ์หมิงแห่งเดียวที่เหลือรอดมาจนปัจจุบัน โดยมีสภาพงดงามสมบูรณ์ ถือเป็น 1ใน 4สวนที่มีชื่อเสียงที่สุดของแถบเจียงหนาน สวนแห่งนี้นอกจากจะเข้าชมได้ในเวลากลางวัน ยังสามารถเข้าชมได้ในเวลาค่ำคืนด้วย โดยจะมีการเปิดไฟหลากสีสันดูงดงามแปลกตาไปอีกแบบจากกลางวัน

ทำเนียบประธานาธิบดีหนานจิง
(南京总统府: Nan jing zong tong fu)

เปิดทำการ : 8:00 – 17:00
ที่ตั้ง : ถนนฉางเจียงเลขที่ 22（南京长江路22号）
ประวัติ :
ทำเนียบประธานาธิบดีหนานจิง หรือ Nanjing Presidential Palace ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของจีน จากประวัติความเป็นมามากกว่า 600 ปี ในอดีตเคยเป็นที่พำนักขององค์ชายฮั่นแห่งราชวงศ์หมิง ในช่วงปี 1368-1644 ต่อมาจึงเป็นหน่วยงานฝ่ายผลิตผ้าของเจียงหนิง ชื่อเดิมของหนานจิง หลังจากนั้นจึงมาเป็นที่ทำงานของผู้ว่าราชการเจียงหนาน เมืองทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี ในช่วงราชวงศ์ชิง ในปี 1644-1911 หลังจากการยึดอำนาจราชวงศ์ชิงในเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลง 1911 ซึ่งวันที่ 1 มกราคม 1912 ดร.ซุนยัดเซ็นได้ใช้ที่แห่งนี้เป็นที่ทำงานชั่วคราวของสาธารณรัฐจีน หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1948 เจียงไคเช็กได้รับเลือกตั้งขึ้นเป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐจีน ณ ที่แห่งนี้นั่นเอง และสุดท้ายกองทัพปลดปล่อยประชาชนได้เข้ามายึดพื้นที่ส่วนนี้ในวันที่ 23 เมษายน 1949 โดยทำเนียบประธานาธิบดีหนานจิงนั้นมีพื้นที่โดยประมาณ 90,000 ตารางเมตร ซึ่งภายในประกอบไปด้วย ศาลา บ้าน ลานกว้าง สะพาน และต้นไม้โบราณ ซึ่งเป็นการผสมผสานของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก และจีนเข้าด้วยกัน

อนุสรณ์สถานรำลึกสงครามหนานจิง
(南京大屠杀纪念馆：nan jing da tu sa ji nian guan)

เปิดทำการ : 8:30-16:30
ที่ตั้ง : ถนนเจียงตงเหมินเจีย หมายเลข 418 (江东门街418号)
ประวัติ :
อนุสรณ์สถานรำลึกสงครามหนานจิง สถานที่นี้จัดสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่สงครามหนานจิงที่มีผู้เสียชีวิตเป็นแสนคน ในปีค.ศ. 1937 ระหว่างสงครามจีน-ญี่ปุ่น กองทัพญี่ปุ่นได้กรีฑาทัพเข้ามายังเมืองนานจิง สังหารชาวเมืองไปกว่าสามแสนคน และในบริเวณเขตเจียงตงเจียเป็นเขตหนึ่งที่มีการสังหารหมู่มากที่สุด โดยพบศพของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายถึงหมื่นร่าง
ศพของเหยื่อจำนวนมากนี้ได้ถูกค้นพบในปีค.ศ. 1985 และเริ่มก่อสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ค.ศ. 1995 ภายในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงภาพเหตุการณ์ที่ทหารญี่ปุ่นได้บุกเข้ามาเข่นฆ่าชาวนานกิง และเรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนภาพเหตุการณ์สงครามระหว่างจีนและญี่ปุ่นได้ดีแห่งหนึ่งของประเทศจีน

กำแพงเมืองหนานจิงสมัยราชวงศ์หมิง
(南京明城墙: nan jing ming cheng qiang）

เปิดทำการ : 6:30-18:00
ที่ตั้ง : เขตสวนอู่ (江苏省南京市玄武区)
ประวัติ :
สร้างตั้งแต่ครั้งราชวงศ์หมิง ใช้เวลาเตรียมการในการสร้าง 3 ปี และแบ่งช่วงเวลาการสร้างเป็น 4 ครั้ง โดยใช้เวลาสร้างรวมแล้วทั้งหมด 21 ปีจึงสร้างแล้วเสร็จ ปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นกำแพงเมืองที่เหลือรอดมาจนปัจจุบันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และในโลกอีกด้วย อิฐที่ใช้ในการก่อสร้างนี้ ขนาดยาว 40–50 เซนติเมตร และกว้าง 20 เซนติเมตร ความหนาน้อยสุดจะหนา 10 เซนติเมตร โดยพระจักรพรรดิจูหยวนจางมีพระบรมราชโองการให้ประชาชนในเขตพื้นที่ทั้งหมด 5 มณฑล ทำการสร้างอิฐเพื่อให้รับประกันคุณภาพอิฐที่ส่งมา ซึ่งอิฐทุกก้อนจะต้องมีการประทับตราถึงเขตที่ผลิต รวมถึงชื่อของช่างที่ทำ หากชิ้นใดไม่ได้มาตรฐานจะต้องส่งอิฐชุดใหม่มา หากไม่ได้มาตรฐานอีกจะต้องโทษหนัก ในการก่อสร้างจะใช้อิฐจำนวนมากถึงสามร้อยห้าสิบล้านก้อน อย่างไรก็ตามกำแพงเมืองโบราณนี้ได้ถูกทำลายไปบ้างเพื่อขยายเขตเมืองตั้งแต่ ค.ศ.1955 ภายหลังในปี ค.ศ.1988 จึงได้เริ่มทำการอนุรักษ์

จีหมิงซื่อ วัดเจดีย์ 7 ชั้น
(鸡鸣寺: ji ming si)

เปิดทำการ : 7:00-15:00
ที่ตั้ง : เขตสวนอู่ ถนนจีหมิงซื่อ หมายเลข 1 (玄武区鸡鸣寺路1号(近北极阁公园))
ประวัติ :
วัดจีหมิงเป็นวัดโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองหนานจิง ตั้งอยู่บนยอดเขาจีหลง ริมทะเลสาบสวนอู่ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของนานจิง จากตัววัดสามารถเดินไปถึงกำแพงเมืองโบราณของนานจิงที่ทอดตัวยาวไปกับทะเลสาบ ถือเป็นสถานที่ชมทิวทัศน์ทะเลสาบ และกำแพงเมืองโบราณที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง
วัดแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของพระโพธิสัตว์ตั๊กม้อ ในสมัยพระจักรพรรดิคังซีเคยมีการซ่อมแซมใหญ่สองครั้ง ในสมัยพระจักรพรรดิเฉียนหลงมีการเสด็จมานมัสการวัดนี้ ปัจจุบันอาคารต่างๆได้สร้างใหม่ทดแทนอาคารหลังเดิมที่ถูกทำลายไป โดยสร้างเลียนแบบของเก่า ในวิหารแห่งหนึ่งของวัดนี้ ภายในได้ประดิษฐานพระพุทธชินราชที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระสังฆราชของประเทศไทย

สุสานซุนจงซาน บิดาแห่งประเทศจีนใหม่ (จงซานหลิง)
(中山陵 : zhong shan ling）

เปิดทำการ : 7:00-18:00
ที่ตั้ง : เขตสวนอู่ ถนนจือจินซานหนานลู่ซือเซี่ยง หมายเลข 7（南京市玄武区紫金山南麓石象路7号）
ประวัติ :
สุสานซุนจงซาน ตั้งอยู่บนยอดเขาจื่อจิง ตามความปรารถนาก่อนตายของ ดร.ซุนยัดเซ็น หรือที่คนจีนเรียกท่านว่า ซุนจงซาน ที่ต้องการให้ฝังร่างของตัวเองเอาไว้ที่นี่ เพื่อเฝ้ามองความเป็นไปของบ้านเมือง โดยที่ด้านหน้ามีบันไดกว้าง จำนวน 392 ขั้น เป็นทางขึ้นไปสู่สุสาน
สุสานซุนจงซาน ถือเป็นสถาปัตยกรรมยุคใกล้ของจีนที่ขึ้นชื่อมากแห่งหนึ่ง รูปทรงของสุสานและองค์ประกอบโดยรอบเหมือนกับรูประฆัง ซึ่งหมายถึงระฆังแห่งอิสรภาพ สุสานสร้างไว้บนยอดเขาสูง ดังนั้นจึงเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์เมืองนานจิงที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง และยังมีอาณาเขตเชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอื่นๆอีกด้วย โดยด้านตะวันตกของสุสานซุนจงซานจะติดกับ หมิงเซี่ยวหลิง สุสานของปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์หมิง ส่วนทางตะวันออกจะเชื่อมต่อกับวัดหลิงกู่ เจดีย์ 9 ชั้น

หมิงเสี้ยวหลิง สุสานของปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์หมิง
(明孝陵: ming xiao ling）

เปิดทำการ : 8:00-18:00
ที่ตั้ง : เขตสวนอู่ ถนนจงซานเหมินไว่สือเซี่ยงหมายเลข 7 （南京市玄武区中山门外石象7号）หรืออาจเรียกว่าเขต เขตสวนอู่ ทางใต้ของภูเขาจือจินซานก็ได้ （玄武区紫金山南麓独龙阜玩珠峰下）ถือว่าอยู่ในอาณาเขตเดียวกับสุสานจงซานหลิง
ประวัติ :
สุสานของปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง สร้างขึ้นโดยปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง จูหยวนจาง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานให้แก่ตนเอง ซึ่งสร้างแล้วเสร็จในปีค.ศ.1383 และได้ใช้งานจริงเมื่อองค์ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงสวรรคต ในปี ค.ศ.1398 ต่อมารูปแบบการสร้างสุสานของ จูหยวนจาง ได้ตกทอดมายัง ฮ่องเต้องค์ต่อๆ มาของราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง แต่สุสานของฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงส่วนใหญ่อยู่ที่ ‘ปักกิ่ง’ หลังจากมีการย้ายเมืองหลวงมาในรัชสมัยหย่งเล่อ เมื่อเข้ามาจุดแรกจะพบกับทางเดินทอดยาว และมีรูปปั้นสัตว์ต่างๆนานา อูฐ ช้าง ม้า กิเลน สิงโต ซึ่งเป็นรูปปั้นที่สร้างมาพร้อมๆกันกับสุสาน ทุกตัวจะสร้างจำนวน 4 ตัว และแบ่งเป็นยืน และนั่งเป็นคู่ เพื่อเสมือนที่จะให้สัตว์เหล่านี้ปกป้องสุสานได้ตลอดเวลาทั้งตอนนั่ง และยืน

หอคอยเยว่เจียงราชวงศ์หมิง
(阅江楼 : yue jiang lou)

เปิดทำการ : 8:00-17:00
ที่ตั้ง : เขตเซี่ยก่วนถนนเจี่ยนหนิงหมายเลข202 (下关区建宁路202号)
ประวัติ :
หอคอยเยว่เจียง เป็นหนึ่งในสิบของหอคอยสำคัญของจีนตั้งอยู่บนยอดเขา ซือจึซาน หรือ เขาพญาสิงห์ และได้ถือเป็นหนึ่งในสี่ของหอคอยที่สำคัญในเขตเจียงหนาน หอคอยเยว่เจียงแห่งนี้เป็นจุดชมทิวทัศน์ของแม่น้ำแยงซีเกียงที่ขึ้นชื่อของเมืองหนานจิง แต่เดิมในรัชสมัยพระเจ้าจูหยวนจางปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง พระองค์มีพระราชประสงค์จะสร้างหอคอยแห่งนี้ไว้ในปี ค.ศ. 1374 ทั้งมีพระราชดำรัสให้แต่งบทประพันธ์บรรยายความงามของหอคอยแห่งนี้ไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการเมือง หอคอยเยว่เจียงแห่งนี้จึงได้ถูกระงับการก่อสร้างไป ทั้งๆที่มีการปรับพื้นดินไว้แล้วทำให้มีคำกล่าวว่า “有记无楼 ” แปลว่า “มีคำประพันธ์บรรยายไว้แต่ไร้หอ” ซึ่งในภายหลังในปี ค.ศ. 2001 จึงได้เริ่มมีการก่อสร้างหอคอยเยว่เจียงขึ้นมาตามพระราชปฏิฐานเดิมของพระจักรพรรดิจูหยวนจาง

หนิวโฉ่วซาน ภูเขาแห่งพุทธศาสนา
(⽜⾸⼭)

ที่ตั้ง: มณฑลจงซาน, เมืองนานจิง
ประวัติ:
หนิวโฉ่วซานเป็นภูเขาที่มีลักษณะคล้ายเขาทั้ง 2 ข้างของวัว ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงอีกที่หนึ่งในเมืองหนานจิง หนิวโฉ่วซานเป็นภูเขาที่มีบรรยากาศอันงดงาม ซึ่งในสถานที่แห่งนี้ยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์เก่าแก่มากมาย ในปี 2016 ที่ผ่านมาได้มีการอันเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานอยู่บนหนิวโฉ่วซาน และในช่วงเทศกาลต่างๆนั้นจะมีนักท่องเที่ยวมากมายที่หลั่งไหลมาที่หนิวโฉ่วซานเพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และเข้าชมพระราชวัง ซึ่งพระราชวังนี้ถูกสร้างขึ้นให้มีความลึกจากใต้ดินถึงยอดเขาจำนวน 6 ชั้น และบนดินสูงขึ้นอีก 3 ชั้น รวมทั้งหมด 9 ชั้น นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าเยี่ยมชมหอต่างๆของวัด และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งในปี ค.ศ. 503 สมัยราชวงศ์ถังนั้นได้มีการก่อสร้างวัดแห่งแรกขึ้น ณ หนิวโฉ่วซาน จึงถือได้ว่าภูเขาแห่งนี้เป็นภูเขาที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาโดยแท้จริง

พิพิธภัณฑ์มีชีวิตหนานจิง
(Nanjing Museum)

ที่ตั้ง: มณฑลจงซาน, เมืองนานจิง
ประวัติ:
พิพิธภัณฑ์มีชีวิตหนานจิง หรือ Nanjing Museum แห่งนี้ได้มีการจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตความเป็นมา และวัฒนธรรมของชาวจีน และชาวจีนเมืองหนานจิงอย่างละเอียด ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์ได้รวบรวมโบราณวัตถุกว่า 420,000 ชิ้น เช่น ชุดเครื่องเคลือบลายคราม ชุดเกราะโบราณ ชุดห่อพระศพ เป็นต้น โดยจะแบ่งการจัดนิทรรศการเป็นหอต่าง ๆ ทั้งนิทรรศการแสดงวัตถุโบราณ งานศิลปะ รูปปั้น และยังจัดแสดงนิทรรศการแบบออนไลน์อีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็จะสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมจีนได้อย่างลึกซึ้ง

สวนสาธารณะทะเลสาบสวนอู่
(玄武湖公园 : xuan wu hu gong yuan)

เปิดทำการ : 7:00-21:00
ที่ตั้ง : ถนนจิ่วหัวซาน หมายเลข 66 (九华山路66)
ประวัติ :
ทะเลสาบสวนอู่เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ของเมืองนานจิง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมือง โดยอยู่นอกกำแพงเมืองของนานจิงออกไป มีการปรับปรุงทะเลสาบแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะประจำเมือง ในอดีตเรียกว่า สวนสาธารณะหยวนอู่ (元武公园) บ้างก็เรียกว่า สวนสาธารณะอู่โจว่ (五洲公园) ทะเลสาบแห่งนี้มีรูปทรงเป็นรูปขนมเปียกปูน ทะเลสาบจะแบ่งเป็นเกาะแก่งทั้งหมด 5 เกาะ ทั้งนี้แต่ละเกาะจะมีสะพานเชื่อมกันทั้งหมดทำให้สะดวกต่อการเดินเล่นชมทิวทัศน์
ทะเลสาบแห่งนี้ถือเป็น 1 ใน 3 ของทะเลสาบที่ขึ้นชื่อที่สุดในเขตเจียงหนานและถือเป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตเจียงหนานเช่นกัน โดยที่มาของชื่อ คือ “อู่หู” เป็นชื่อของเทพเต่าดำประจำทิศเหนือ

ออนเซ็นทังซาน
(汤山温泉)

ออนเซ็นทังซาน อยู่ห่างจากเขตจงซานออกไป 28 กิโลเมตรในเขตเจียงหนิง หมู่บ้านทังซาน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 1,500 ปี เป็นเขตออนเซ็นที่มีชื่อดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในเรื่องแช่รักษาอาการเจ็บป่วยและแช่เพื่อดูแลสุขภาพและเป็นออนเซ็นอันดับ 1 ในจีน อุณหภูมิของออนเซ็นจะอยู่ที่ประมาณ 60-65 องศาเซลเซียส ในน้ำจะประกอบไปด้วยแร่ธาตุต่างๆกว่า 30 ชนิด สีของออนเซ็นทังซานจะออกสีเหลืองอ่อน น้ำจะใส ไม่มีกลิ่นเหม็น ดีต่อการรักษาโรคผิวหนัง อาการเจ็บป่วยตามข้อกระดูก เดือนที่เหมาะที่สุดในการแช่ออนเซ็นจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน ถึง กุมภาพันธ์

ย่านนานจิง 1912
(南京1912)

ย่านนานจิง 1912 (南京1912街区) เป็นเขตความบันเทิงที่มีชื่อเสียงของนานจิง สองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านเหล้า บาร์ ผับต่างๆมากมาย เป็นแหล่งรวมวัยรุ่นที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมสมัยสาธารณรัฐที่ยังอนุรักษ์ไว้ถึงปัจจุบันอีกด้วย

ย่านจับจ่ายซื้อของ “ซินเจียโขว่”
(新街口：xin jie kou）

เปิดทำการ : ตลอดทั้งวัน
ที่ตั้ง : เมืองนานจิง เขตไป่เซี่ย（南京市白下区）
ประวัติ :
ซินเจียโขว่ถือเป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในนานจิงคล้ายกับย่านสยามสแควร์ของกรุงเทพฯ ถือเป็นย่านจับจ่ายที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ห้างดังที่ควรไปเดินได้แก่ “ห้างต้าหยางไป่ฮั่ว” (大洋百货：da yang baihua) และ “ห้างเต๋อจีกว่างฉ่าง” (德基广场：de jiguangchang) อย่างไรก็ตามในพื้นที่นี้สินค้าราคาค่อนข้างแพงและไม่ใช่แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองของนานจิง

เจดีย์กระเบื้องเคลือบแปดเหลี่ยม

ที่ตั้ง : เมืองนานจิง
​ประวัติ :
เจดีย์กระเบื้องเคลือบแปดเหลี่ยมตั้งอยู่ที่วัดต้าเป้าเอินในเมืองหนานกิง ซึ่งเป็นเมืองหลวงเอกของมณฑลเจียงซู อยู่ทางตอนเหนือของจีน สร้างไว้เมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 15 สมัยของราชวงศ์หมิง โดยพุทธศาสนิกชนชาวจีนเป็นผู้สร้างเอาไว้ เจดีย์ออกแบบเป็นทรงแปดเหลี่ยม ความสูงทั้งสิ้น 9 ชั้น หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียว มีกระดิ่งแขวนไว้ทั้งหมด 80 ลูก เล่ากันว่าบนยอดเจดีย์นั้น มีลูกบอลทำด้วยทองติดอยู่ ประกอบด้วยเหล็กที่เป็นวงแหวนล้อมรอบถึง 9 วง นอกจากี้ยังมีไข่มุกขนาดใหญ่ 5 เม็ดอยู่ที่ปลาย ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นเครื่องรางบอกความมีโชคมีชัยของเมืองหนานจิง
เจดีย์กระเบื้องเคลือบแปดเหลี่ยมได้มีการสร้างขึ้นโดยพุทธศาสนิกชนชาวจีน ซึ่งในยุคแรกนั้นได้สร้างไว้เพียง 3 ชั้นเท่านั้น และในยุคต่อมาของจักรพรรดิยุ่งโล้แห่งราชวงค์หมิงราวๆปี พ.ศ. 1973 ได้โปรดให้สร้างเพิ่มขึ้นอีกรวมทั้งสิ้น 9 ชั้น มีบันไดวนจำนวน 184 ขั้น เป็นการสร้างเพื่อระลึกถึงคุณบิดามารดา และภายในเจดีย์กระเบื้องเคลือบแปดเหลี่ยมนั้น จักรพรรดิ์ยุ่งโล้ได้บรรจุเครื่องบูชาที่ทำจากของมีค่าเช่น เงิน ทองคำ และอัญมณีอื่นๆ จำนวนมาก ในภายหลังเจดีย์แห่งนี้ได้ถูกฟ้าผ่า และถูกกบฎไต้เผ็งทำลายเมื่อปี พ.ศ. 2396 แม้ว่าเจดีย์กระเบื้องเคลือบแปดเหลี่ยมนั้นจะถูกทำลายไปมาก แต่ก็ยังคงมีความงามหลงเหลืออยู่ในแบบฉบับที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดของชาวหนานจิงก็คือ เมื่อปี พ.ศ.2553 นายหวังเจียนหลิน ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ต้าเหลียน วันดา กรุ๊ป ได้บริจาคเงินก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ราว 4,500 ล้านบาท เพื่อบูรณะเจดีย์กระเบื้องเคลือบแปดเหลี่ยมนี้ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ยลสืบต่อไป

Gingko Lake International Golf Club
(银杏湖球场)

ที่ตั้ง: มณฑลเจียงซู, เมืองนานจิง
ประวัติ:
สนามกอล์ฟ Gingko เป็นสนามกอล์ฟที่ติดทะเลสาปสามารถมองเห็นวิวต้นไม้อันร่มรื่น ภายในประกอบไป ด้วยร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟต่างๆ ร้านอาหาร และสถานที่อํานวยความสะดวกสบายให้ท่านอย่างครบครัน
สนามกอล์ฟ Gingko เป็นสนามระดับอินเตอร์เนชั่นแนลกอล์ฟคลับที่ได้มาตรฐานสากล มีทั้งสิ้น 27 หลุมแฟร์เวย์ ยาว รวม 10,800 หลา สนามกอล์ฟระดับแชมป์นานาชาติ โดยการออกแบบสนามกีฬาจะสะท้อนให้เห็นถึงความคิด และสาระสําคัญของกอล์ฟ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการยึดมั่นใน การเล่นกีฬาเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างความสามัคคีในระหว่างการเล่นอีกด้วย ความโดดเด่น และการก่อสร้างอินเตอร์เนชั่นแนลกอล์ฟคลับแห่งนี้ให้มีทั้งธรรมชาติ และเสน่ห์ เรายินดีที่ให้ท่านได้เข้ามาท้าทายความสามารารถได้แล้ววันนี้ค่ะ

Nanjing Zhongshan International Golf
(钟⼭山球场)

ที่ตั้ง: มณฑลจงซาน, เมืองนานจิง
ประวัติ:
หนานจิงจงซานอินเตอร์เนชั่นแนลกอล์ฟคลับ ตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันออกโดยครอบคลุมพื้นที่ 3671 ไร่ จัด สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1934 โดยความร่วมมือระหว่าง สาธารณรัฐประชาชนจีนและทูตต่างประเทศ ซึ่งภายในสโมสรมีการตกแต่งอย่างดี เพื่อสอดคล้องกับอาคารหลัก โดยมีสนามกอล์ฟทัวร์นาเมนต์มาตรฐานสากล 27 หลุม โดย 18 หลุม โดยประกอบไปด้วยอาคารจอดรถขนาดใหญ่ภายในโรงแรมระดับห้าดาวพร้อมคลับระดับ high-end วิลล่า